คำถามที่พบบ่อย ประกันภัยรถยนต์

  • 2 ประเภท คือ ภาคบังคับ และภาคสมัครใจ
    1. การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่คนเราเรียกกันสั้นๆว่า “ประกัน พรบ.” เป็นการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นข้อบังคับให้รถยนต์ทุกคัน ทุกประเภท ต้องทำประกันภัยชนิดนี้ เพื่อให้ความคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากรถยนต์ ที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ให้ได้รับการชดใช้
    2. การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เข้ามาช่วยจัดสรรความเสี่ยงภัยด้านความมั่นคงทางการเงินให้กับเจ้าของรถยนต์ ผู้ครอบครองรถยนต์ หรือผู้ขับขี่รถยนต์ โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมจากภาคบังคับได้โดยสมัครใจ เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ หรือความรับผิดของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อบุคคลภายนอก
    โดยปัจจุบันการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่เป็นมาตรฐานและได้รับความนิยม แบ่งได้เป็น 5 ประเภทความคุ้มครองได้แก่ 

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ ประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด คุ้มครองทั้งผู้เอาประกัน บุคคลภายนอก คู่กรณี ทั้งบุคคลและทรัพย์สิน ไม่ว่าผู้เอาประกันจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก นอกจากนี้ยังคุ้มครองครบถ้วนทั้งในกรณีของไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย หรือน้ำท่วม

    ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากครับ เพียงแค่ว่ามีความคุ้มครองที่ลดลงมา และเบี้ยประกันที่ถูกลงมาชั้น 2+ จะคุ้มครองรถยนต์ผู้เอาประกันหากเกิดการเฉี่ยวชนในกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น

    ประกันรถยนต์ชั้น 2 ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ความรับผิดต่อความสูญหาย และไฟไหม้ของตัวรถยนต์ คันเอาประกันภัย

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้น จะไม่คุ้มครองในกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ส่วนในกรณีเฉี่ยวชน จะคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น จะไม่คุ้มครองการเฉี่ยวชนในกรณีอื่นๆเช่น รถยนต์เฉี่ยวชนเสาไฟ้ฟ้า ฟุตบาท วัตถุอื่นๆ  เป็นต้น และยังคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคู่กรณีอีกด้วย

    ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้น เหมาะกับคนใช้รถน้อย และต้องการเบี้ยประกันรถยนต์ที่เน้นราคาถูก ส่วนในเรื่องของความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นจะไม่คุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินของผู้เอาประกันเลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีของเหตุไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุเฉี่ยวชน แต่จะรับผิดชอบทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และตัวบุคคลภายนอกเท่านั้น 

    ในฐานะผู้ซื้อ หรือผู้เอาประกัน ควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง   ท่านสามารถติดต่อบริษัทประกันภัย หรือฝากข้อมูลสำหรับการติดต่อกลับท่านเพื่อให้นายหน้าประกันภัยโดย บริษัท โลตัสส์ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ติดต่อท่านเพื่อนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ 
     
  • สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นการคุ้มครองโดยบริษัทผู้รับประกันภัยให้กับผู้ที่ทำประกันภัย แบ่งการคุ้มครองเป็น 4 แบบคือ
    1. คุ้มครองความรับผิดต่อความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
         1.1 ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยต่อบุคคลภายนอกโดยผู้รับประกันภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหม เพื่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก ที่ได้รับอุบัติเหตุจากรถยนต์ของผู้เอาประกัน รวมถึงผู้ที่โดยสารอยู่ในรถที่ทำประกันด้วย
         1.2 ความเสียหายทรัพย์สินของบุคคลภายนอก บริษัทจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และความรับผิดของบริษัท เช่น ขับรถยนต์ไปเฉี่ยวชนกับทรัพย์สินผู้อื่น  รถยนต์ รั้วบ้าน เสาไฟฟ้า เป็นต้น
    2. คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้
         2.1 รถยนต์สูญหาย บริษัทผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับรถยนต์สูญหายไปอันเกิดจากโดยโจรกรรม
         2.2 รถยนต์ไฟไหม้บริษัทผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม
    3. คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย บริษัทผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเวลาประกันภัย ต่อรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ โดยผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบแล้ว แต่ไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้
    4. ภัยเพิ่มเติม ที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ซึ่งเบี้ยประกันภัยจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ขอเอาประกันภัย
         4.1 ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในรถยนต์
         4.2 ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล จากการโดยสารรถยนต์คันที่เอาประกันภัย ของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในรถยนต์
         4.3 ประกันตัวผู้ขับขี่ บริษัทจะประกันตัวผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย ในกรณีรถยนต์ที่ระบุไว้ในตารางเกิดอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัวในคดีอาญา
     
  • สำหรับประกันประกันภัยชั้น 1 ที่หลายคนคิดว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดแล้ว แต่จะมีค่าใช้จ่ายนอกจากเบี้ยประกันที่คุณต้องชำระ หรือความรับผิดส่วนเกินที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดไว้เอง ในกรณีที่มีการเคลมประกันเกิดขึ้น นั่นคือค่าเสียหายส่วนแรก แบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ
    • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess : ในกรณีที่ความเสียหายของรถไม่ได้เกิดจากการที่เราขับชน หรือชนแล้วไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เป็นต้นว่า รถเป็นรอยขีดข่วนโดยไม่สามารถระบุผู้กระทำได้ รถเป็นรอยไถลหรือครูดกับถนน ก้อนหินไม่ทราบที่มากระเด็นใส่กระจกรถแตก สัตว์ไม่มีเจ้าของข่วน หรือทำลายรถบางส่วนเสียหาย เป็นต้น
    • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible : เป็นค่าใช้จ่ายแบบสมัครใจที่ผู้เอาประกันภัยตกลงไว้เพื่อใช้เป็นส่วนลดของเบี้ยประกันภัย เมื่อแจ้งเคลมเป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี ผู้เอาประกันภัยตกลงร่วมจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตามที่ตกลงไว้
    • ค่าเสียหายที่อยู่ในข้อยกเว้น ที่ไม่อยู่ในข้อตกลงคุ้มครองของบริษัทประกันภัย
     
  • สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเคลมฝ่ายผิดเลย เบี้ยประกันในปีต่อไปจะลดลงได้ ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทผู้รับประกันภัยกำหนด
  • สำหรับประกันภัยชั้น 1 อายุรถยนต์เป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการรับประกันภัยซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บางบริษัทประกันภัยสามารถรับประกันภัยชั้น 1 ได้มากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่ปัจจัยอื่นประกอบกัน เช่น รุ่นรถยนต์ การจัดหาอะไหล่ ประวัติของผู้ขับขี่ เป็นต้น
  • ลูกค้าใหม่ คือ ลูกค้าที่ไม่เคยซื้อประกันภัยรถยนต์กับทาง บริษัท โลตัสส์ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด หรือ เคยซื้อแล้วและไม่ได้ต่ออายุกับบริษัท โลตัสส์ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
  • ไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่ลูกค้าทำการชำระเบี้ย พร้อมด้วยเอกสารประกอบการทำประกันภัยรถยนต์ครบถ้วน เมื่อทางบริษัทผู้ประกันภัยได้รับเอกสารแล้วก็จะติดต่อลูกค้าในลำดับถัดไป
  • กรณีที่ลูกค้าทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ความคุ้มครองจะเกิดขึ้นแบบสมบูรณ์ได้นั้น หลังจากที่ผ่านอนุมัติการตรวจสภาพรถจากบริษัทผู้รับประกันภัย แต่ถ้าหากยังไม่ได้รับการตรวจสภาพรถ จะคุ้มครองกรณีเคลมสดเท่านั้น
  • เคลมสด คือ การเคลม ณ ที่เกิดเหตุ มีพนักงาน หรือตัวแทนบริษัทประกันลงพื้นที่ เพื่อทำการตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ และยังมีผู้เสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ผู้ขับขี่จะได้รับใบหลักฐานเพื่อใช้ในการติดต่อเรื่องค่าเสียหาย และนำรถยนต์ไปเข้าซ่อมที่ศูนย์ต่อไป 

    เคลมแห้ง คือ เป็นการเคลมที่พนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุไม่จำเป็นต้องออกไปตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ ได้แก่ กรณีที่รถยนต์คันเอาประกันเสียหายเล็กน้อย หรือกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี การเคลมประกันรถยนต์ประเภทนี้ ผู้เอาประกันสามารถนำรถเข้าไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทได้ด้วยตนเองตลอดเวลา แต่ต้องก่อนกรมธรรม์หมดอายุทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยนั้นๆ
  • เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนน สิ่งสำคัญที่ต้องทำอันดับแรกก่อนเคลมประกันรถยนต์ก็คือ การตั้งสติให้ดี เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ทั้งความเสียหาย สถานที่เกิดเหตุ มีคู่กรณีไหม มีคนบาดเจ็บไหม มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหรือไม่ มีพยานไหม คู่กรณีเป็นใครแล้วจึงโทรไปแจ้งยังศูนย์ประกันรถยนต์ที่คุณทำประกันรถยนต์เอาไว้
    โดยเตรียมเอกสารที่สำคัญไว้ คือ 
    1.เตรียมกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่คุณทำเอาไว้ 
    2. เตรียมเอกสารต่างๆ สำหรับยื่นเรื่องเคลมประกันรถยนต์ 
  • เมื่อแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยแล้ว แนะนำให้ติดต่อบริษัทประกันภัย แจ้งความประสงค์ในพื้นที่ที่ท่านสะดวกเอารถยนต์เข้าซ่อม แนะนำให้จัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรืออู่ ที่เป็นคู่สัญญาของบริษัทประกันภัย เนื่องจากท่านจะไม่ต้องสำรองออกค่าใช้จ่ายในการจัดซ่อมรถยนต์
  • เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นและมีคู่กรณี แต่คนขับไม่มีใบขับขี่ ทางประกันรถที่ทำอยู่จะจ่ายเงินชดเชยให้ทั้งตัวร่างกายบุคคลและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น โดยไม่สามารถเรียกเงินประกันกับผู้เอาประกันได้ ซึ่งความคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอกก็มีส่วนที่ยกเว้นอยู่ ดังนี้
    1.    ไม่คุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกัน รวมไปถึงครอบครัวของผู้เอาประกันด้วย หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
    2.    ไม่คุ้มครองทรัพย์สินและสัมภาระที่อยู่ในรถ ทั้งของตัวคุณและคู่กรณี
    3.    ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากน้ำหนักของรถยนต์ หรือน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์ เช่น ผู้ขับขี่อาจบรรทุกของหนัก ส่งผลให้ถนนที่ขับผ่านเกิดความเสียหาย ในกรณีนี้ทางประกันรถที่ทำอยู่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นต้น

    หากไม่มีใบขับขี่ รถของเราที่ทำประกันรถยนต์ จะได้รับความคุ้มครองหรือไม่
    ในส่วนของความคุ้มครองรถยนต์ที่ทำประกันรถยนต์เอาไว้จะต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ 1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น ซึ่งคนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายถูก กับ 2. คนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด โดยขึ้นอยู่กับบริษัทประกันรถพิจารณา ดังนี้
    คนขับไม่มีใบขับขี่ แต่เป็นฝ่ายถูก คุ้มครองหรือไม่
    ในกรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่แต่เป็นฝ่ายถูก และรถยนต์ทำประกันรถชั้น 1, 2+, 3+ เอาไว้ บริษัทประกันรถจะรับผิดชอบในส่วนค่าซ่อมของผู้ขับขี่ รวมถึงจะเป็นผู้เรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดเอง แต่ถ้าคนขับไม่มีใบขับขี่และไม่ได้ทำประกันรถยนต์ด้วยแล้ว ผู้ขับขี่จะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเอง รวมถึงจะได้รับความผิดจากกรณีที่ไม่มีใบขับขี่ตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรขนส่งทางบกอีกด้วย

    คนขับไม่มีใบขับขี่ และเป็นฝ่ายผิด คุ้มครองหรือไม่
    สำหรับกรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด เบื้องต้นอาจจะต้องตรวจสอบดูก่อนว่าไม่มีใบขับขี่เพราะสาเหตุใด เพื่อที่ประกันรถจะได้พิจารณาได้ถูกต้อง ดังนี้

    1. กรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่หรือไม่เคยสอบใบขับขี่ ทางประกันรถจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายต่างๆ ทุกกรณี แต่จะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบุคคลแทน ตามเงื่อนไขของประกันรถตามกรมธรรม์นั้นๆ 
    2. คนขับมีใบขับขี่แต่ใบขับขี่หมดอายุ ในกรณีนี้ทางบริษัทประกันรถจะให้ความคุ้มครองทุกกรณีทั้งรถของผู้ขับขี่และคู่กรณี
    3. กรณีสุดท้ายคือคนขับถูกยึดใบขับขี่ ผู้ขับขี่จะต้องคัดลอกสำนวนเพื่อนำมายืนยันกับทางบริษัทประกัน เพื่อขอรับความคุ้มครองทั้งรถของตนเองและคู่กรณี
    อย่างไรก็ตาม การมีใบขับขี่ในการขับรถนั้นเป็นสิ่งยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการขับขี่ถูกต้องตามกฎหมายที่ระบุไว้ ดังนั้นการพกใบขับขี่อยู่ตลอดและทำประกันรถยนต์ จะช่วยให้คุณอุ่นใจทุกครั้งในการเดินทาง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นคุณก็จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันรถที่คุณทำเอาไว้ รวมถึงผู้โดยสารและทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถด้วย  
     
  • ประกันภัยทุกประเภท ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นมาก่อนระยะเวลาเอาประกันภัย
    ประกันภัยชั้น 1 มีเงื่อนไขต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนพิจารณารับประกันภัย ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนนี้ จะถูกระบุอยู่ในระบบของบริษัทผู้รับประกันภัย
  • ท่านสามารถติดต่อขอทำประกันภัยรถยนต์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์โลตัส มันนี่ พลัส หรือ โทร. 0-2627-8888