ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ 2568 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ต่อภาษีรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง

การต่อภาษีรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลายคนมักสับสนว่าต้องต่อภาษีรถยนต์ใช้อะไรบ้าง จนทำให้ต้องวิ่งกลับไปกลับมา เสียเวลาโดยไม่จำเป็น มาดูกันว่าเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมไปต่อภาษีรถยนต์มีอะไรบ้าง เพื่อให้การต่อภาษีของคุณเป็นเรื่องง่ายในครั้งเดียว!
การต่อภาษีรถยนต์จำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่อทะเบียนรถให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ โดยเอกสารต่อภาษีรถยนต์ที่ต้องเตรียมมีดังนี้
1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียนรถ)สมุดคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "เล่มทะเบียน" เป็นเอกสารต่อภาษีรถยนต์สำคัญที่สุดสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ เนื่องจากเป็นเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของและรายละเอียดของรถยนต์ คุณต้องนำเล่มทะเบียนรถตัวจริงไปด้วยทุกครั้งเมื่อไปต่อภาษี เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องบันทึกประวัติการต่อภาษีลงในเล่มทะเบียน
หากเล่มทะเบียนสูญหาย คุณจะต้องแจ้งความที่สถานีตำรวจก่อน แล้วนำใบแจ้งความไปติดต่อที่สำนักงานขนส่งเพื่อทำเล่มทะเบียนใหม่ก่อนที่จะดำเนินการต่อภาษีรถยนต์
2. หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถรถยนต์ที่จดทะเบียนมาแล้วเกิน 7 ปี จะต้องผ่านการตรวจสภาพรถก่อนการต่อภาษี โดยสามารถนำรถไปตรวจสภาพได้ที่
- สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก
- สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
เมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้ว คุณจะได้รับ "ใบรับรองการตรวจสภาพรถ" หรือที่เรียกว่า "ใบตรวจสภาพรถ" ซึ่งมีอายุ 30 วันนับจากวันที่ตรวจ
สำหรับรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ไม่จำเป็นต้องนำรถไปตรวจสภาพ แต่ในกรณีที่รถยนต์มีการดัดแปลงสภาพรถ เช่น เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่องยนต์ จะต้องนำรถไปตรวจสภาพก่อนเสมอ
3. กรมธรรม์ พ.ร.บ. รถยนต์พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) เป็นประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องทำตามกฎหมาย คุณจะต้องมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุเมื่อไปต่อภาษีรถยนต์
หาก พ.ร.บ. หมดอายุ คุณสามารถต่อ พ.ร.บ. ได้ที่
- บริษัทประกันภัยหรือตัวแทนประกันภัย
- สำนักงานขนส่งทุกแห่ง (มีบริการทำ พ.ร.บ. ในจุดเดียวกับการต่อภาษี)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือจุดบริการต่อภาษีอื่นๆ ที่มีบริการทำ พ.ร.บ.
บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทน (กรณีเป็นนิติบุคคล) เป็นเอกสารต่อภาษีรถยนต์สำคัญที่ต้องใช้ในการยืนยันตัวตน
ในกรณีที่มอบหมายให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท และสำเนาบัตรประชาชนของทั้งผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
ต่อภาษีรถยนต์ที่ไหนได้บ้าง?
ปัจจุบันการต่อภาษีรถยนต์สามารถทำได้หลายช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ดังนี้
1. ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์เป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด สามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก (https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf) หรือแอปพลิเคชัน DLT Smart Service โดยมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้
- ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
- เลือกรายการ "ต่อภาษีรถยนต์"
- กรอกหมายเลขทะเบียนรถและข้อมูลเจ้าของรถ
- ตรวจสอบข้อมูลและชำระค่าภาษี (สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต, Mobile Banking หรือ Internet Banking)
- พิมพ์ใบเสร็จรับเงินและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (สามารถใช้ใบเสร็จฉบับดิจิทัลได้ในระหว่างรอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีทางไปรษณีย์)
หมายเหตุ: การต่อภาษีออนไลน์มีเงื่อนไขว่ารถยนต์ต้องมีอายุไม่เกิน 7 ปี หรือหากเกิน 7 ปี ต้องได้รับการตรวจสภาพรถและบันทึกผลในระบบแล้ว และต้องมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ
2. สำนักงานขนส่งทั่วประเทศสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศให้บริการต่อภาษีรถยนต์ในวันและเวลาราชการ (จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.) โดยบางแห่งอาจเปิดให้บริการในวันเสาร์ด้วย
ข้อดีของการไปต่อภาษีที่สำนักงานขนส่งคือสามารถดำเนินการได้ครบวงจร ทั้งการตรวจสภาพรถ (กรณีรถอายุเกิน 7 ปี), ทำ พ.ร.บ., ชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้ในคราวเดียว
3. ที่ทำการไปรษณีย์ที่ทำการไปรษณีย์ไทยหลายแห่งมีบริการรับต่อภาษีรถยนต์ โดยต้องเตรียมเอกสารต่อทะเบียนรถให้ครบถ้วนตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น คุณจะได้รับใบเสร็จรับเงินและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีในทันที
4. ธนาคาร ธ.ก.ส.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หลายสาขาให้บริการต่อภาษีรถยนต์เช่นกัน โดยมีขั้นตอนและเอกสารต่อภาษีรถยนต์ที่ต้องใช้เหมือนกับการต่อภาษีที่สำนักงานขนส่ง
5. เคาน์เตอร์เซอร์วิสเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านสะดวกซื้อบางแห่งให้บริการรับต่อภาษีรถยนต์ ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่สะดวกเนื่องจากมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศและเปิดให้บริการในเวลาที่ยาวนานกว่าหน่วยงานราชการ
ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์

หลังจากที่เตรียมเอกสารต่อภาษีรถยนต์ครบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ ซึ่งมีกระบวนการไม่ซับซ้อนอย่างที่หลายคนกังวล เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ คุณก็จะสามารถต่อภาษีรถได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องตามกฎหมาย
1. นำรถไปตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่ง หรือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)หากรถของคุณมีอายุเกิน 7 ปี จำเป็นต้องนำรถไปตรวจสภาพก่อน ทั้งที่สำนักงานขนส่งหรือที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาต โดยการตรวจสภาพจะพิจารณาความปลอดภัยในการใช้รถบนท้องถนน เช่น ระบบเบรก ไฟสัญญาณ น้ำมันรั่วซึม ควันดำ เป็นต้น
เมื่อผ่านการตรวจสภาพ คุณจะได้รับ "ใบรับรองการตรวจสภาพรถ" ซึ่งมีอายุ 30 วัน นับจากวันที่ตรวจ
2. ชำระเงินค่าภาษีรถยนต์ตามช่องทางต่างๆนำเอกสารต่อภาษีรถยนต์ที่เตรียมไว้ทั้งหมด ได้แก่ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ, ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (กรณีรถอายุเกิน 7 ปี), กรมธรรม์ พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ และบัตรประชาชน ไปยังจุดให้บริการต่อภาษีตามช่องทางที่คุณสะดวก
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและคำนวณค่าภาษีตามประเภทและอายุของรถยนต์ จากนั้นคุณสามารถชำระค่าภาษีได้ด้วยเงินสด บัตรเครดิต หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ตามที่จุดบริการนั้นรองรับ
3. บันทึกรายการค่าภาษีรถหลังจากชำระค่าภาษีเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะบันทึกการเสียภาษีประจำปีลงในสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ หรือในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (กรณีต่อภาษีออนไลน์)
4. รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และหนังสือแสดงการจดทะเบียนเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น คุณจะได้รับ
- ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีประจำปี
- เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (แผ่นป้ายสีที่ต้องติดที่กระจกหน้ารถ)
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถที่บันทึกประวัติการต่อภาษีเรียบร้อยแล้ว
ในกรณีที่ต่อภาษีออนไลน์ คุณจะได้รับใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ทันที และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจะถูกส่งทางไปรษณีย์ภายใน 7 วันทำการ
การต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้า

ผู้ขับขี่สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนภาษีปัจจุบันหมดอายุ การต่อภาษีล่วงหน้ามีข้อดีคือ
- หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะลืมต่อภาษีจนเกินกำหนด ซึ่งจะมีค่าปรับ
- ลดความแออัดในช่วงใกล้วันหมดอายุภาษี
- มีเวลาในการวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการต่อภาษี
การต่อภาษีล่วงหน้าไม่ได้ทำให้ระยะเวลาของภาษีลดลง เพราะวันหมดอายุของภาษีใหม่จะนับต่อจากวันหมดอายุของภาษีปัจจุบัน ไม่ใช่นับจากวันที่ไปต่อภาษี
ข้อควรระวังในการต่อภาษี
การต่อภาษีรถยนต์มีข้อควรระวังที่ผู้ขับขี่ควรทราบ ดังนี้
- หากต่อภาษีเกินกำหนด จะมีค่าปรับเดือนละ 1% ของค่าภาษี แต่รวมแล้วไม่เกิน 30% ของค่าภาษี
- ในกรณีที่เลยกำหนดต่อภาษีนานกว่า 3 ปี การจะนำรถกลับมาใช้งานอีกครั้งจะต้องดำเนินการจดทะเบียนใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
- การแจ้งเลิกใช้รถชั่วคราว หากมีแผนไม่ใช้รถเป็นเวลานาน สามารถแจ้งเลิกใช้รถชั่วคราวได้ที่สำนักงานขนส่ง ซึ่งจะไม่ต้องเสียภาษีในช่วงเวลานั้น
- ตรวจสอบใบเสร็จและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี ว่ามีข้อมูลถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เช่น ชื่อ-นามสกุลของเจ้าของรถ หมายเลขทะเบียน วันหมดอายุของภาษี เป็นต้น
- เก็บใบเสร็จรับเงินค่าภาษีไว้ในรถเสมอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ
ต่อภาษีรถยนต์ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคา 2568
ค่าภาษีรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ ขนาดเครื่องยนต์ น้ำหนัก และอายุของรถ โดยทั่วไปอัตราภาษีมีดังนี้
1. รถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง)
- เครื่องยนต์ไม่เกิน 600 ซีซี: คิดซีซีละ 0.50 บาท
- เครื่องยนต์เกิน 600-1800 ซีซี: คิดซีซีละ 1.50 บาท
- เครื่องยนต์เกิน 1800 ซีซี: คิดซีซีละ 4.00 บาท
- รถตู้ รถแวน หรือรถ SUV ขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
- รถน้ำหนักไม่เกิน 500 กิโลกรัม: 150 บาท/ปี
- รถน้ำหนักเกิน 501-750 กิโลกรัม: 300 บาท/ปี
- รถน้ำหนักเกิน 751-1,000 กิโลกรัม: 450 บาท/ปี
- รถน้ำหนักเกิน 1,001-1,250 กิโลกรัมขึ้นไป: 800 บาท/ปี
- รถกระบะ หรือรถอเนกประสงค์ที่จดทะเบียนเป็นรถบรรทุกส่วนบุคคล
นอกจากค่าภาษีรถยนต์แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องชำระพร้อมกัน ได้แก่
- ค่า พ.ร.บ.: ประมาณ 600-1,200 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของรถ)
- ค่าตรวจสภาพรถ (กรณีรถอายุเกิน 7 ปี): ประมาณ 200-300 บาท
- ค่าธรรมเนียมการดำเนินการ (ขึ้นอยู่กับช่องทางการต่อภาษี): 30-100 บาท
ปกป้องทรัพย์สินของคุณด้วยประกันภัยรถยนต์จาก โลตัส มันนี่ พลัส

การต่อภาษีรถยนต์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบในการเป็นเจ้าของรถ อีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการมีประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม
โลตัส มันนี่ พลัส มีแผนประกันภัยรถยนต์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1, 2, 3, 3+ )
ด้วยจุดเด่นของประกันภัยรถยนต์จาก Lotus's Money Plus ที่มาพร้อมกับ
- เลือกแบ่งจ่ายเงินสดหรือบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
- มีแผนประกันให้เลือกหลากหลาย ได้ราคาดี พร้อมโปรโมชันจัดเต็ม
- รับประกันภัยโดยบริษัทประกัน ที่คัดสรรแล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนประกันภัยรถยนต์ สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นี่
สรุป: เส้นทางสู่การขับขี่ที่อุ่นใจและถูกกฎหมาย
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถทุกคนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายและขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและหลีกเลี่ยงการถูกปรับ ในปี 2568 นี้ กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการต่อภาษีให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น หลากหลายช่องทาง ทั้งการต่อภาษีทางออนไลน์ การต่อภาษีที่สำนักงานขนส่ง ไปรษณีย์ ธนาคาร หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆ
เพียงเตรียมเอกสารต่อภาษีรถยนต์ให้ครบถ้วน ได้แก่ เล่มทะเบียนรถ ใบตรวจสภาพรถ (กรณีรถอายุเกิน 7 ปี) พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ และบัตรประชาชนของเจ้าของรถ ก็สามารถดำเนินการต่อภาษีได้อย่างราบรื่น
นอกจากการขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ตามกฎหมายแล้ว การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องคุณและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด โลตัส มันนี่ พลัส มีแผนประกันภัยรถยนต์ที่หลากหลายให้คุณเลือกตามความต้องการและงบประมาณที่เหมาะสม
การต่อภาษีรถยนต์และการทำประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณขับขี่บนท้องถนนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยตลอดปี 2568