15 รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่น่าจับตามองในปี 2025
ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนปัง?

ปัจจุบันนี้ผู้ขับขี่บนท้องถนนหันมาใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดการณ์ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า EV กำลังจะเป็นตลาดที่น่าจับตามองในปี 2025 อย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพื่อนร่วมทางของผู้ขับขี่นั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยประหยัดพลังงานด้านการเดินทาง รวมถึงราคาที่เอื้อมถึงได้จริง สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ผู้ขับขี่หันมาเลือกรถยนต์ไฟฟ้า EV เป็นหนึ่งในตัวเลือกยานพาหนะคู่ใจนั่นเอง
เราพร้อมพาคุณมาทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า EV มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโชว์ความอัจฉริยะของรถยนต์ไฟฟ้าให้คุณได้ว้าว, เกร็ดความรู้ที่ต้องเข้าใจก่อนมีรถยนต์ไฟฟ้า EV รวมถึงแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เราที่สุด บทความนี้รวบรวมคำตอบไว้ให้คุณแล้ว
ไขความลับการเลือกรถยนต์ไฟฟ้ากับ 5 ปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม
การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคันไม่ใช่แค่การเลือกยานพาหนะดีไซน์สวยเท่านั้น แต่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจที่จำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิตประจำวันและอนาคตของคุณด้วยเช่นกัน ดังนั้น การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่าที่สุด เราจึงพาคุณมาไขความลับการเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช่กับ 5 ปัจจัยหลักก่อนตัดสินใจซื้อที่ไม่ควรมองข้าม
- ปัจจัยที่ 1: เลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
- ก่อนตัดสินใจศึกษาว่ารถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาระยะทางที่คุณต้องการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่เดินทางไกลบ่อยครั้ง ควรมองหารุ่นที่มีระยะทางวิ่งที่ยาวนาน เพื่อความสะดวกสบายและลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง
- ศึกษาเรื่องความจุของแบตเตอรี่ให้ดี เพราะส่วนนี้มีผลต่อระยะทางวิ่งโดยตรง แบตเตอรี่ที่มีความจุสูงจะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ไกลขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่สูงตามขึ้นด้วยเช่นกัน
- ปัจจัยที่ 2: ศึกษาราคาและค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าก่อนตัดสินใจ
- กำหนดงบประมาณสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณสามารถใช้จ่ายได้อย่างชัดเจน เพื่อจำกัดตัวเลือกและช่วยให้คุณโฟกัสไปที่รถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ในงบประมาณของคุณ
- เปรียบเทียบราคาของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าติดตั้งเครื่องชาร์จ, ค่าประกันภัย และค่าบำรุงรักษา เป็นต้น
- คํานวณค่าใช้จ่ายในระยะยาว เช่น ค่าไฟฟ้า, ค่าบำรุงรักษา และค่าอะไหล่ เป็นต้น
- ปัจจัยที่ 3: อัปเดตเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการประหยัดพลังงานเพิ่มเติม
- ศึกษาข้อมูลแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เช่น แบตเตอรี่ Lithium-ion หรือ Solid-state battery เป็นต้น
- พิจารณาประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟ
- มองหาเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ เช่น ระบบ Regenerative braking หรือระบบ Heat pump เป็นต้น
- ปัจจัยที่ 4: ระบบความปลอดภัย และฟีเจอร์อัจฉริยะของรถยนต์ไฟฟ้า
- เลือกรุ่นที่มีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบเตือนการชน และถุงลมนิรภัย เป็นต้น
- พิจารณาฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ เช่น ระบบช่วยจอด, ระบบควบคุม,ความเร็วอัตโนมัติ และระบบ Infotainment เป็นต้น
- ปัจจัยที่ 5: รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการรับประกันและบริการหลังการขาย
- ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่, มอเตอร์ไฟฟ้า และส่วนประกอบอื่น ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า
- ตรวจสอบว่าผู้ผลิตมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมและมีอะไหล่พร้อมให้บริการหรือไม่
- เสริมความมั่นใจในการขับขี่ด้วยการพิจารณาความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของแบรนด์ให้ครอบคลุม

ส่องที่สุด 15 รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต มียี่ห้ออะไรบ้าง?
เปิดปี 2025 ก็เห็นได้เลยว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างมาก ผู้ผลิตยานยนต์ต่างนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น และราคาที่เข้าถึงได้มาเอาใจนักขับขี่กันไม่น้อย เราจึงทำการรวบรวมที่สุด 15 รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มาให้คุณได้ตามหารถยนต์คู่ใจที่ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ มาส่องไปพร้อมกันเลยว่าจะมียี่ห้อไหนกันบ้าง
รถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มราคาประหยัด มียี่ห้ออะไรบ้าง?
1. BYD Dolphin

BYD Dolphin รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าคันแรก ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ "Ocean Aesthetics" ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยวและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย Blade Battery ที่ปลอดภัยและทนทาน พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน สมรรถนะดีเยี่ยม วิ่งได้ไกลถึง 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) ที่สำคัญคือความคุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย และ ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่ารถยนต์น้ำมัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ จึงทำให้ BYD Dolphin เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
BYD Dolphin มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Standard Range
- รุ่น Extended Range
2. BYD Atto 3

BYD Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้าที่อัปเกรดดีไซน์ทันสมัย โฉบเฉี่ยว และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมและลงตัว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และยังมีหลังคา Panoramic Sunroof ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ พร้อมแบตเตอรี่ Blade Battery สมรรถนะที่ดี ขับขี่สนุก โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 480 กิโลเมตร (NEDC) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แล้วมาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกับ BYD Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้าที่ใคร ๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ
BYD Atto 3 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Dynamic
- รุ่น Premium
- รุ่น Extended
รถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มราคากลาง มียี่ห้ออะไรบ้าง?
3. ORA 07 (รุ่นใหม่ 2024)

ORA 07 รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตคูเป้ที่โดดเด่นและหรูหรา มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้วิ่งได้ไกลกว่าและรองรับการชาร์จเร็ว DC สมรรถนะของ ORA 07 ก็ไม่เป็นรองใคร ด้วยอัตราเร่งที่ทันใจและสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ORA 07 จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและน่าจดจำ ซึ่งวิ่งได้ไกลถึง 640 กิโลเมตร (CLTC) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเลยทีเดียว การันตีได้เลยว่า ORA 07 จะทำให้คุณตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นและจะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณต้องมี
ORA 07 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Long Range
- รุ่น Long Range Ultra
- รุ่น Performance
4. MINI Cooper EV (รุ่นใหม่ 2024)

สำหรับผู้ที่หลงใหลในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ MINI Hatchback และกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ MINI Cooper EV คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ด้วยการผสมผสานความคลาสสิกเหนือกาลเวลาเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้อย่างลงตัว MINI Cooper EV จะพาคุณก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการขับขี่ไฟฟ้าอย่างมีสไตล์ พร้อมกับสมรรถนะที่น่าประทับใจ ทำให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานและมั่นใจ นอกจากนี้ MINI Cooper EV ยังมีแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีขนาดใหญ่ขึ้นยังช่วยให้คุณวิ่งได้ไกลกว่ารุ่นเดิมถึง 402 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทาง
MINI Cooper EV รุ่น Cooper SE
5. Tesla Model 3 Highland (รุ่นใหม่ 2024)

Tesla Model 3 Highland มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวและล้ำสมัย ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ที่เสริมความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความเรียบง่ายแต่หรูหรา พร้อมด้วยพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ที่จับถนัดมือยิ่งขึ้นช่วยให้การควบคุมรถเป็นเรื่องง่าย ภายในประกอบด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้คุณสามารถขับขี่ได้ไกลกว่าเดิม โดยรุ่น Rear-Wheel Drive สามารถวิ่งได้ไกลถึง 513 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในขณะที่รุ่น Long Range สามารถวิ่งได้ไกลถึง 629 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ Tesla Model 3 Highland ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Tesla Autopilot ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความเร็ว การรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า หรือการเปลี่ยนเลนโดยอัตโนมัติ และเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยให้การขับขี่ของคุณเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น และด้วยการผสมผสานความหรูหราและเทคโนโลยีสุดล้ำได้อย่างลงตัวนี้ Tesla Model 3 Highland พร้อมพาคุณก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการขับขี่ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
Tesla Model 3 Highland มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Rear-Wheel Drive
- รุ่น Long Range
6. Volvo EX30 (รุ่นใหม่ 2024)

Volvo EX30 รถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมดีไซน์ Thor's Hammer อันเป็นเอกลักษณ์ของ Volvo และตัวถังที่ดูแข็งแกร่งแต่ปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายและใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่มีให้เลือกทั้งรุ่น Single Motor (ขับเคลื่อนล้อหลัง) และ Twin Motor (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) โดยใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม อัตราเร่งทันใจ และความปลอดภัยที่ครบครัน มีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบ Pilot Assist และระบบ Park Pilot Assist ความโดดเด่นของ Volvo EX30 จะพาคุณสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เหมือนใคร
Volvo EX30 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Core
- รุ่น Ultra
- รุ่น Performance
7. CHANGAN Deepal S07 (รุ่นใหม่ 2024)

ออกสตาร์ทไปพร้อมกันกับ CHANGAN Deepal S07 รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว พร้อมด้วยหลังคา Panoramic Sunroof ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้ตามต้องการ เทคโนโลยีที่ทันสมัยกับแบตเตอรี่ Lithium Ternary (NMC) ที่มีขนาดความจุ 66.8 kWh สามารถวิ่งได้ไกลถึง 485 กิโลเมตร (NEDC) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้มีสมรรถนะที่ดีขับขี่สนุก ด้วยความที่ CHANGAN อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทย อาจทำให้ศูนย์บริการและอะไหล่อาจยังมีจำนวนจำกัดในบางพื้นที่
CHANGAN Deepal S07 รุ่น Standard Range
8. Hyundai IONIQ 5

Hyundai IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าที่ดีไซน์ที่โดดเด่น ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมและเป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Parametric Pixel ที่ดู futuristic และตัวถังที่ดูแข็งแกร่งแต่ปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งสบาย อีกทั้งยังมีคอนโซลกลางแบบ Universal Island ที่ปรับเลื่อนได้ และเบาะนั่งปรับไฟฟ้าที่สามารถปรับเอนได้เกือบแบนราบ โดยใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion สามารถวิ่งได้ไกลถึง 481 กิโลเมตร (WLTP) มีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบ Smart Cruise Control with Stop & Go, ระบบ Lane Keeping Assist, และระบบ Blind-Spot Collision-Avoidance Assist ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณให้พิเศษกว่าเดิม
Hyundai IONIQ 5 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Standard Range
- รุ่น Long Range
9. Nissan Ariya (รุ่นใหม่ 2024)

Nissan Ariya รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมดีไซน์ที่ล้ำสมัยและสง่างาม ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมและลื่นไหล ไฟหน้า LED ที่ดูโฉบเฉี่ยว และไฟท้าย LED ที่ยาวพาดผ่านด้านหลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง คอนโซลกลางสามารถเลื่อนได้ และเบาะนั่งที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ แบตเตอรี่ของ Nissan Ariya มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE โดยใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ระยะทางวิ่งยาวนาน มีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ ProPILOT Assist ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ เช่น ระบบช่วยจอด, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ที่จะช่วยยกระดับความปลอดภัยการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้แก่คุณ
Nissan Ariya มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE
รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม มียี่ห้ออะไรบ้าง?
10. BMW i5 (รุ่นใหม่ 2024)

เตรียมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับไปกับ BMW i5 รถยนต์ไฟฟ้าที่ผสานความหรูหราและสปอร์ตได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่เรืองแสง "Iconic Glow" อันเป็นเอกลักษณ์ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มาพร้อมหน้าจอ Curved Display ขนาดใหญ่ที่รวมแผงหน้าปัดและระบบ Infotainment ไว้ด้วยกัน พวงมาลัยดีไซน์ใหม่กระชับมือ และเบาะนั่งที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ BMW i5 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ i5 eDrive40 และ i5 M60 xDrive ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 582 กิโลเมตร (WLTP) ในรุ่น i5 eDrive40 ให้คุณเพลิดเพลินกับสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม
BMW i5 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น i5 eDrive40
- รุ่น i5 M60 xDrive
11. AVATR 11

AVATR 11 รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่จะเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครให้คุณได้สัมผัส มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นสะกดทุกสายตา ด้วยการออกแบบที่ได้รับรางวัล Red Dot Design Award ภายในห้องโดยสารออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงและระบบความบันเทิงที่ครบครัน สมรรถนะยอดเยี่ยมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูง อัตราเร่งทันใจ และแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 680 กิโลเมตร (NEDC) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้คุณเดินทางได้อย่างอิสระและไร้กังวล นอกจากนี้ AVATR 11 ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทาง
AVATR 11 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Standard Range
- รุ่น Long Range
12. Mercedes-Benz EQE SUV (รุ่นใหม่ 2024)

Mercedes-Benz EQE SUV ยกระดับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเหนือชั้น โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหราล้ำสมัยตามแบบฉบับ Mercedes-Benz ด้วยเส้นสายเฉียบคมลื่นไหล ไฟหน้า Digital Light โฉบเฉี่ยว และไฟท้าย LED ดีไซน์ล้ำสมัย ภายในห้องโดยสารกว้างขวางหรูหรา พร้อมเทคโนโลยี MBUX Hyperscreen และ Mercedes-Benz User Experience (MBUX) ที่เชื่อมต่อคุณกับโลกดิจิทัลได้อย่างลงตัว มาพร้อมสมรรถนะอันทรงพลังด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 558 กม. (WLTP) ให้คุณขับเคลื่อนได้อย่างอิสระและมั่นใจในทุกเส้นทาง
Mercedes-Benz EQE SUV มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย
13. Audi Q8 e-tron

Audi Q8 e-tron รถยนต์ไฟฟ้าที่ผสมผสานความหรูหราและความล้ำสมัยไว้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Audi ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งสบาย และตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อาทิ หน้าจอ Audi virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ แบตเตอรี่ Lithium-ion สมรรถนะเยี่ยม ให้คุณโลดแล่นได้ไกลถึง 582 กิโลเมตร (WLTP) พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบ Audi pre sense และระบบ Lane departure warning ที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น Audi Q8 e-tron จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ และเทคโนโลยี
Audi Q8 e-tron มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย
14. Maserati Grecale Folgore (รุ่นใหม่ 2024)

Maserati Grecale Folgore รถยนต์ไฟฟ้าที่ผสานความหรูหราสไตล์อิตาเลียนเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความสง่างามและสมรรถนะอันทรงพลัง มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ Lithium-ion สมรรถนะเยี่ยมให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (WLTP) ให้คุณโลดแล่นได้อย่างอิสระและไร้กังวล Grecale Folgore ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นการแสดงออกถึงความเหนือระดับและสไตล์ที่โดดเด่นของคุณ
Maserati Grecale Folgore
15. Porsche Taycan

Porsche Taycan รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตคูเป้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยเส้นสายเฉียบคมลื่นไหล ไฟหน้า LED Matrix โฉบเฉี่ยว ไฟท้าย LED ยาวพาดด้านหลัง เทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะยอดเยี่ยมด้วยแบตเตอรี่ Performance Battery Plus ประสิทธิภาพสูง วิ่งได้ไกล 463 กม. (WLTP) พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Porsche Active Safe มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ เร้าใจ และปลอดภัย
Porsche Taycan มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย
เปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้าสุดฮิต ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนปัง ก่อนตัดสินใจซื้อ
BRAND |
|
| อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน | Key Hilight |
BYD Dolphin | 405 | 177 | 10-15 kWh/100 กม. | Blade Battery, Ocean Aesthetics Design |
ORA 07 | 640 | 204 | 19.4 kWh/100km | Long Range, Sport Coupe Design |
BYD Atto 3 | 480 | 204 | 14.9 kWh/100km | Blade Battery, Rotating Screen |
MINI Cooper EV | 402 | 218 | 17.6 – 15.2 kWh/100km | Classic Design, Modern Interior |
Tesla Model 3 Highland | 513-629 | 283-441 | 16.6 kWh/100 km | Autopilot, Supercharger Network |
Volvo EX30 | 480 | 272-428 | 17 kWh/100 km | Scandinavian Design, Safety Features |
CHANGAN Deepal S07 | 485 | 258 | 15.8 kWh/100 km | Sleek Design, Spacious Interior |
Hyundai IONIQ 5 | 481 | 217 | 16.7 kWh/100 km | V2L Function, Parametric Pixel Design |
Nissan Ariya | 450 | 215-394 | - | e-4ORCE, ProPILOT Assist |
BMW i5 | 582 | 340-601 | 18.9 -15.9 kWh/100 km | Curved Display, iDrive 8.5 |
AVATR 11 | 680 | 313 | 16.6 kWh/100 km | Long Range, Luxurious Interior |
Mercedes-Benz EQE SUV | 558 | - | 19.3 - 15.7 kWh/100 km | MBUX Hyperscreen, Digital Light |
Audi Q8 | 582 | - | 8.9 - 9.1 kWh/100 km | Audi virtual cockpit, MMI Touch response |
Maserati Grecale Folgore | 500 | 500 | 11.6 kWh/100 km | Luxurious Design, High Performance |
Porsche Taycan | 463 | - | 26.9 kWh/100 km | Sport Design, High Performance |
หมายเหตุ: ตารางนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมกับผู้จำหน่ายอีกครั้ง, ราคาและค่าใช้จ่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามผู้ขับขี่, ระยะทางวิ่งเป็นค่าตามมาตรฐาน WLTP หรือ NEDC ซึ่งอาจแตกต่างจากการใช้งานจริง
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานก่อนตัดสินใจมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง
ค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า EV ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์, ค่าพลังงาน, ค่าบำรุงรักษา, ค่าประกันภัย, และค่าเสื่อมราคา โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้า EV จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่ต้องดูแลรักษาน้อยกว่า และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ซึ่งเราจำเป็นต้องนำค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วนมาคำนวณและเปรียบเทียบให้ชัดเจนว่าเพื่อวางแผนก่อนตัดสินใจเลือกเพื่อนคู่ใจที่ตอบโจทย์
คะแนนความพึงพอใจจากผู้ใช้จริง ช่วยให้ตัดสินใจเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้องได้
คะแนนความพึงพอใจจากผู้ใช้จริงเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV ควรศึกษาความคิดเห็นและรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ละรุ่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ

รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เลือกให้ตอบโจทย์การใช้งาน คือคำตอบที่ใช่
"รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี" อาจเป็นคำถามแรก ๆ ที่คุณตั้งคำถามขึ้นมา ซึ่งจริง ๆ แล้วคำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะรถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ละรุ่นก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญคือความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แทนที่จะถามว่า "ยี่ห้อไหนดี" ลองเปลี่ยนคำถามเป็น "รถยนต์ไฟฟ้า EV แบบไหนที่เหมาะกับฉัน" น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงจุดมากกว่า เพราะการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV สักคัน ไม่ใช่แค่การดูว่ารุ่นไหนสวยหรือใคร ๆ ก็ใช้ แต่เป็นการเลือก "เพื่อนร่วมทาง" ที่จะตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด
เลือกรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้ในเมือง
- รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นและมีพื้นที่จอดรถจำกัด
- ระยะทางวิ่งที่เหมาะสม: ไม่จำเป็นต้องมีระยะทางวิ่งที่ยาวนานมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้ขับขี่ในระยะทางใกล้ ๆ
- ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ: BYD Dolphin, MINI Cooper EV
เลือกรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับเดินทางไกล
- รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางวิ่งยาวนาน: ควรเลือกรุ่นที่มีระยะทางวิ่งที่ยาวนาน เพื่อความสะดวกสบายและลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง
- ระบบชาร์จไฟที่รวดเร็ว: ควรมีระบบชาร์จไฟที่รวดเร็ว เพื่อประหยัดเวลาในการชาร์จไฟระหว่างการเดินทาง
- ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ: Tesla Model 3 Highland, Volvo EX30
เลือกรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว
- รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางหรือขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน หรือต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระมาก
- พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง: ควรมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบาย เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวนั่งได้อย่างสะดวกสบาย
- ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ: BYD Atto 3, Hyundai IONIQ 5
เลือกรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจ
- รถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน: เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
- รถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะที่เหมาะสม: ควรมีสมรรถนะที่เหมาะสมกับการใช้งานของธุรกิจ เช่น การขนส่งสินค้า หรือการเดินทางไปพบลูกค้า
- ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ: (ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจ)
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV
ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV มีข้อควรรู้หลายประการที่ควรพิจารณา เพื่อให้การตัดสินใจของคุณรอบคอบและคุ้มค่าที่สุด
- การวางแผนการชาร์จให้ดี
- ที่อยู่อาศัย: ตรวจสอบว่าที่บ้านของคุณสามารถติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าได้หรือไม่ หากไม่สามารถติดตั้งได้ ควรพิจารณาตัวเลือกอื่น ๆ เช่น การชาร์จไฟที่สถานีชาร์จสาธารณะ หรือการใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มีระยะทางวิ่งที่ยาวนาน เป็นต้น
- เส้นทางการเดินทาง: วางแผนเส้นทางการเดินทางของคุณ โดยคำนึงถึงตำแหน่งของสถานีชาร์จไฟฟ้า เพื่อให้คุณสามารถชาร์จไฟได้อย่างสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง
- เวลาในการชาร์จ: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเวลาที่ใช้ในการชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ละรุ่น เพื่อวางแผนการชาร์จไฟได้อย่างเหมาะสม
- การประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ราคา: เปรียบเทียบราคาของรถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าติดตั้งเครื่องชาร์จ, ค่าประกันภัย, และค่าบำรุงรักษา เป็นต้น
- ค่าพลังงาน: คำนวณค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยพิจารณาจากอัตราสิ้นเปลืองพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้า EV และค่าไฟฟ้าในพื้นที่ของคุณ
- ค่าบำรุงรักษา: ประเมินค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า EV ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
- ค่าเสื่อมราคา: พิจารณาค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ไฟฟ้า EV ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและยี่ห้อ
- สิทธิประโยชน์และการสนับสนุนจากภาครัฐ
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ตรวจสอบว่ามีสิทธิประโยชน์ทางภาษีใดบ้างที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV เช่น การลดหย่อนภาษี หรือการยกเว้นภาษี เป็นต้น
- เงินอุดหนุน: ตรวจสอบว่ามีเงินอุดหนุนใดบ้างที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV
- มาตรการส่งเสริม: ศึกษามาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ของภาครัฐ เช่น การขยายสถานีชาร์จไฟฟ้า หรือการให้สิทธิพิเศษในการจอดรถ
- การเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งาน EV
- เครื่องชาร์จไฟฟ้า: เตรียมเครื่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับติดตั้งที่บ้าน หรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียง
- แอปพลิเคชัน: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า EV เช่น แอปพลิเคชันสำหรับค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้า หรือแอปพลิเคชันสำหรับควบคุมรถยนต์ไฟฟ้า EV เป็นต้น
- คู่มือการใช้งาน: ศึกษาคู่มือการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า EV อย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า EV
- การบำรุงรักษา: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า EV ซึ่งอาจแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

สรุป
สรุป การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ใช่ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำความเข้าใจความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างละเอียด แล้วพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ตามบทความข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์การใช้งาน, งบประมาณ, คุณสมบัติที่ตอบโจทย์, หรือแม้กระทั่งความชอบส่วนบุคคล เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถพบกับ "เพื่อนร่วมทาง" ที่ใช่ ที่จะนำพาคุณไปสู่ทุกจุดหมายได้อย่างราบรื่นและมีความสุขกับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้
เพื่อให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยและอุ่นใจมากยิ่งขึ้น อย่าลืมมองหา ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ชั้น 1 ที่จะคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของคุณในทุกการเดินทาง เพื่อให้การขับขี่ของคุณปลอดภัย สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โลตัส มันนี่ พลัส เพื่อนร่วมทางที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจทุกการเดินทาง