เคลมประกันรถยนต์ ต้องทำอะไรบ้าง

เคลมประกันรถยนต์มีกี่ประเภท   

คนขับรถย่อมรู้ดีว่า เมื่อไหร่ที่ขับรถก็อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นแล้วการมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกเหตุไม่คาดฝัน อย่างประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทั้งรถยนต์ ผู้ขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี ซึ่งประเภทของการเคลมประกันรถยนต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เคลมประกันรถยนต์แบบมีคู่กรณี และ เคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณี 

ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ ทำอย่างไร   

สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมเสมอเมื่อมีเหตุให้ต้องแจ้งเคลมประกันรถยนต์ไม่ว่ากรณีใดๆ คือ 

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่มี เพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญอย่าง หมายเลขกรมธรรม์  ทะเบียนรถยนต์ และยี่ห้อรถ ซึ่งการเคลมประกันรถยนต์ในแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี มีขั้นตอนต่างกันดังนี้

ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ แบบมีคู่กรณีทำอย่างไร       

ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ว่าจะรถชนกันหรือเฉี่ยวกัน แม้จะเป็นการกระทบกระทั่งกันแค่เพียงเล็กน้อย หากเป็นอุบัติเหตุรถชนรถ และมีคู่กรณีอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายผิด สิ่งแรกที่เจ้าของรถต้องทำคือการแจ้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวแทนประกันโดยการเตรียมรายละเอียดข้อมูลในการแจ้งให้พร้อม คือ หมายเลขทะเบียนรถ วัน เวลา และสถานที่เกิด ลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพื่อแจ้งเคลมประกันรถยนต์ทันที ณ จุดเกิดเหตุ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า การเคลมสด จากนั้นตัวแทนประกันหรือพนักงานสำรวจอุบัติเหตุจะเป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อทั้งตัวรถและผู้ขับขี่ โดยหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ เจ้าของรถที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้จะได้รับใบเคลมรายการความเสียหายเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นทำเรื่องเคลมประกัน

ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ แบบไม่มีคู่กรณี ทำอย่างไร   

ในบางสถานการณ์ อุบัติเหตุจากการขับรถก็สามารถเกิดขึ้นได้แม้ไม่มีคู่กรณีเป็นบุคคล เช่น ขับรถชนสิ่งของ ชนรั้วบ้าน ชนถังขยะ ชนกำแพง ขั้นตอนการเคลมจึงเป็นแบบไม่มีคู่กรณี หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า การเคลมแห้ง โดยการเคลมประกันหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้วระยะหนึ่งก็นับเป็นการเคลมแห้งเช่นเดียวกัน แต่ประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแม้ไม่มีคู่กรณีก็มีเพียงประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้เจ้าของรถจะต้องติดต่อบริษัทประกันเพื่อตรวจเช็คสภาพรถยนต์ จากนั้นจึงจะได้รับใบเคลมเพื่อนำรถไปซ่อมแซมความเสียหาย แต่ทั้งนี้ เจ้าของรถก็มีหน้าที่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess นอกเสียจากว่าจะระบุที่มาความเสียหายได้ว่าตัวรถมีรอยบุบ แตกร้าว  มีหลักฐานบอกลักษณะการเกิดเหตุ วันเวลา สถานที่ชัดเจน

 ดังนั้นแล้ว สิ่งสำคัญของการทำประกันรถยนต์ ต้องไม่ลืมคำนึงถึงรูปแบบความคุ้มครองว่าครอบคลุมมากแค่ไหน ความเสี่ยง และลักษณะการใช้รถของเราเองเพื่อชั่งน้ำหนักประกอบการตัดสินใจ โดยสามารถสอบถามเรื่องการทำประกันรถยนต์ โลตัสพร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องประกันภัยรถยนต์ ติดต่อได้ทันที โทร 026278888 หรือ แอดไลน์ @servicelotusbroker