ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้าดี?


contentสญญาณไฟ_cover.jpg

กระแสรถยนต์ไฟฟ้าหรือ ‘รถ EV’ กำลังมา หลายค่ายออกรถไฟฟ้าราคาไม่แพงมาตีตลาดรถในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Ora goodcat, MG ZS EV, Hyundai IONIQ และอื่นๆ อีกหลายยี่ห้อ รวมถึงรัฐบาลก็ออกมาตรการกระตุ้นการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับใครที่กำลังลังเล ซื้อดี-ไม่ซื้อดี เราได้รวบรวม ข้อดี-ข้อด้อยที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจถอยรถ EV มาไว้ที่นี่แล้ว

ข้อดี

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า

>> ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ารถยนต์ทั่วไป

ถ้าเทียบกันระหว่างรถ EV และรถใช้น้ำมันที่มีตัวเครื่องเหมือนๆ กัน รวมถึงอายุการใช้งานและการขับขี่ จะพบว่าค่าไฟฟ้าสำหรับรถ EV จะถูกกว่าและมีความผันผวนน้อยกว่ารถที่ใช้น้ำมัน โดยเฉลี่ยในการชาร์จไฟหนึ่งครั้งของรถ EV จะเสียค่าไฟประมาณ 90-150 บาท หรือตีเป็นเงินประมาณ 0.06 - 1 บาท/กิโลเมตร ในขณะที่รถใช้น้ำมันจะใช้เฉลี่ย 3 บาทต่อกิโลเมตร หรือพูดง่ายๆ ว่าในการเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้ง รถ EV ประหยัดค่าเชื้อเพลิงมากกว่า 2-3 เท่าเลยทีเดียว

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า

>> เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดมลภาวะทางเสียงได้ดีกว่า

สาเหตุที่รถ EV เป็นมิตรต่อโลกมากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน เนื่องจากรถ EV ใช้เพียงมอเตอร์ในการขับเคลื่อน จึงไม่มีไอเสียจากการเผาผลาญเชื้อเพลิง ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ในขณะที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพื่อการเผาไหม้ ปล่อยมลพิษต่อโลกทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่อง นอกจากนี้รถใช้น้ำมันยังมีการจุดระเบิดทำให้เกิดเสียงดังขณะใช้งาน ทำให้เกิดมลภาวะทางเสียง ในขณะที่รถ EV ใช้เพียงมอเตอร์จึงเสียงเงียบกว่า ลดมลภาวะทางเสียงได้ดีกว่า
 

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า

>> ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่น้อยกว่า มีประโยชน์หลายอย่าง

การที่รถ EV มีเครื่องยนต์น้อยชิ้นกว่ารถธรรมดาถึง 50% มีประโยชน์หลายอย่าง อย่างแรกคือมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โอกาสที่ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ EV จะกระแทกเข้ากับผู้โดยสารมีน้อยกว่า (ถ้าไม่นับปัจจัยเรื่องความแข็งแรงของตัวถัง การออกแบบ อุปกรณ์ความปลอดภัยในรถ)
            ประโยชน์ต่อมาคือค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษาเครื่องยนต์รถ EV ในระยะยาวน้อยกว่า รวมถึงโอกาสเสียเงินค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีน้อยกว่ารถที่ใช้น้ำมัน
            ที่สำคัญในวันที่ฝนตกหนักๆ หรือเกิดน้ำท่วม รถ EV ขับได้สบายใจกว่ารถที่ใช้น้ำมัน เพราะภายในตัวเครื่องของรถดังกล่าวมีทั้งน้ำมันเครื่อง เกียร์ และส่วนอื่นๆ ที่เป็นของเหลว หากต้องขับผ่านบริเวณน้ำท่วมสูง มีโอกาสเกิดปัญหาได้มากกว่า ในขณะที่รถ EV ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ ซึ่งมีการ Sealed Off ไว้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถขับผ่านน้ำท่วมได้ดีกว่า
 

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า
>> รถยนต์ไฟฟ้ามีแรงบิดมากกว่า ทำให้อัตราเร่งดี

เมื่อเทียบเครื่องยนต์ในระดับเดียวกัน จะพบว่ารถ EV มีกำลังแรงม้าและแรงบิดที่ดีกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากรถที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีชิ้นส่วนมาก ขณะใช้งานจะมีการสูญเสียกำลังระหว่างทางจากเครื่องยนต์ไปถึงล้อมากกว่ารถ EV ด้วยเหตุนี้รถ EV ที่มี Single Speed จะมีอัตราเร่งของเครื่องยนต์ดีกว่ารถที่ใช้น้ำมัน

ข้อด้อย
ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า
>> ใช้เวลาชาร์จแบตนาน

ถึงแม้เทคโนโลยีทุกวันนี้มีการพัฒนาให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบชาร์จไฟได้เร็วขึ้น แต่เมื่อเทียบกับการเติมน้ำมันที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีก็ได้เต็มถัง ในขณะที่รถ EV ต่อให้ชาร์จแบบ Quick Charge ที่เป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงก็ยังต้องใช้เวลาชาร์จนาน 30 - 60 นาทีอยู่ดี (ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่)

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า
>> ระยะทางขับขี่ ถูกจำกัดด้วยความจุของแบตเตอรี่

ที่จริงระยะทางการวิ่งของรถ EV ขึ้นอยู่กับ ขนาดแบตเตอรี่ และขนาดของมอเตอร์ของรถรุ่นนั้นว่ามีความจุเท่าไหร่ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น สภาพการจราจร, ความชันของเส้นทาง, การใช้งานแอร์ในสภาพอากาศร้อน เป็นต้น ซึ่งรถ EV บางรุ่น (ราคาประมาณ 6 แสนกว่าบาท) วิ่งได้ไกลประมาณ 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในขณะที่รุ่นท็อป (ราคาประมาณ 5 ล้านบาท) อาจวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ  ซึ่งถ้าเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันก็ต้องถือว่าระยะทางในการขับขี่ของรถ EV ที่ชาร์จเต็มความจุแบตฯ ก็ยังวิ่งได้น้อยกว่าอยู่ดี

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า
>> ต้องติดตั้งที่ชาร์จ มีราคาแพง

รถ EV สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ก็จริง แต่ต้องติดตั้งแท่นชาร์จแบบพิเศษ หรือใช้ปลั๊กไฟที่ทำขึ้นมาเฉพาะชาร์จโดยตรงสำหรับรถยนต์ EV เท่านั้น ซึ่งมีค่าติดตั้งเริ่มต้นที่ประมาณ 11,000 บาท แต่ไม่ใช่จ่ายแค่นี้แล้วจบ เนื่องจากการชาร์จกระแสไฟเข้าสู่รถ EV จะใช้กระแสไฟฟ้าสูง ดังนั้นก่อนติดตั้งที่ชาร์จ ต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนว่าเต้ารับภายในบ้านรองรับกระแสไฟฟ้าขั้นต่ำ 15(45)A ได้มั้ย ระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน เช่น สะพานไฟ, ขนาดของสายไฟ รวมถึงอุปกรณ์ระบบตัดไฟกรณีฉุกเฉิน มีความเหมาะสมต่อปริมาณการใช้กระแสไฟที่เพิ่มหรือเปล่า

ข้อดี-ข้อด้อยต้องรู้ ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า
>> แบตเตอรีอยู่ได้ 6-8 ปี และถ้าเปลี่ยนมีราคาสูงมาก

แบตเตอรี่และมอเตอร์ในรถ EV ก็เหมือนในเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ที่มีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ซึ่งอายุการใช้งานของแบตฯ รถ EV เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-8 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ระยะเวลา และระยะทาง ปัญหาคือแบตเตอรี่ถือว่าเป็นในชิ้นส่วนที่แพงที่สุดของรถ EV ซึ่งรถรุ่นกลางๆ ทั่วไปจะมีขนาดแบตฯที่ประมาณ 25-40 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนราคาของแบตเตอรี่ก็ต่างกันไปตามชื่อเสียงของแบรนด์และประสิทธิภาพการชาร์จ ซึ่งมีตั้งแต่ราคา 300 - 450 USD ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือประมาณ 11,000 - 17,000 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งถ้าถึงเวลาเปลี่ยนแบตฯ ก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
 
ทั้งหมดนี้คือข้อดี-ข้อด้อยของรถยนต์ไฟฟ้า จัดข้อมูลมาให้แน่นๆ แบบนี้ ลองเอาไปพิจารณากันนะ แล้วถ้าตัดสินใจซื้อ! ก็อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ตรงใจได้ที่ เคาน์เตอร์โลตัส มันนี่ พลัส 

ที่มา
https://www.krungsriauto.com/auto/content/OCT19-EVCar.html
https://www.bangkokbiznews.com/auto/996118
 

WEB_banner-FB.jpg