
รถยนต์เป็นพาหนะที่มีความสำคัญหรือเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน เมื่อมีรถยนต์ก็ต้องมีประกันภัยรถยนต์เป็นของคู่กัน เนื่องจากเป็นสิ่งที่กฏหมายกำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเมื่อผู้ขับขี่ใช้รถบนท้องถนน มักจะมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ ต่อให้เรารอบคอบไม่ประมาทและใช้ความระมัดระวังอย่างดีแล้วก็ตาม สิ่งๆ นั้น ก็คือ อุบัติเหตุ
อุบัติเหตุ เป็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดหวังและไม่ตั้งใจในเวลาและสถานที่แห่งหนึ่ง เกิดขึ้นโดยไม่มีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้า อย่างเช่น กิ่งไม้ที่อยู่ ๆ ก็ตกลงมาโดนกระจกรถแตก หรือน้ำท่วมเครื่องยนต์จนรถยนต์ไม่สามารถใช้งานได้ หากคุณเพิ่งซื้อรถใหม่ ที่เป็นรถรุ่น และยี่ห้อที่เหล่ามิจฉาชีพหมายปอง เจ้าของรถก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ หรือบางครั้ง คุณอาจจะขับรถไปชนคนอื่นซึ่งแน่นอนว่าคุณเป็นฝ่ายผิด คุณต้องจ่ายค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลรวมถึงค่าทรัพย์สินภายในรถให้คู่กรณีด้วย เราสามารถจัดการความเสี่ยง ความเสียหาย และคุ้มครองรถยนต์ของเราด้วยประกันรถยนต์ ซึ่งจะช่วยลดภาระให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้เอง กับอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเหล่านี้
ประกันรถยนต์ คืออะไร?
ประกันรถยนต์ คือ การประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ เป็นประกันที่ผู้เอาประกันทำไว้เพื่อคุ้มครองรถยนต์ ทรัพย์สินและบุคคล ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งลักษณะของความคุ้มครอง จะมีความแตกต่างกันออกไป ตามแผนประกันรถยนต์ที่ผู้เอาประกันเป็นผู้เลือก
ประกันรถยนต์ มีประเภทอะไรบ้าง?
ในประเทศไทยนั้น ประกันรถยนต์มีสองประเภทหลักๆ มีประกันรถยนต์ภาคบังคับ และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (Compulsory Third Party Insurance) หมายความถึง การประกันภัยรถยนต์ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำ สิ่งที่เราเรียกกันทั่วไปว่า พรบ. รถยนต์ เพื่อความคุ้มครองต่อความสูญเสียชีวิต ร่างกายของบุคคลผู้ประสบภัยหรือจากรถยนต์ (บุคคลที่สาม) เป็นหลัก
ส่วน การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance)
หมายความถึง การประกันภัยที่เกิดขึ้น โดยความสมัครใจของ เจ้าของรถยนต์ หรือผู้ขับขี่รถยนต์ สามารถทำหรือไม่ทำก็ได้ โดยไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เจ้าของรถยนต์ หรือผู้ขับขี่รถยนต์ ก็ควรทำเพื่อคุ้มครองรถยนต์ คนในครอบครัว รวมไปถึงบุคคลภายนอก
การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ มีความคุ้มครองให้เลือก 5 ประเภท
-
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ ประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด คุ้มครองทั้งผู้เอาประกัน บุคคลภายนอก คู่กรณี ทั้งบุคคลและทรัพย์สิน ไม่ว่าผู้เอาประกันจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก นอกจากนี้ยังคุ้มครองครบถ้วนทั้งในกรณีของไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย หรือน้ำท่วม
-
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากครับ เพียงแค่ว่ามีความคุ้มครองที่ลดลงมา และเบี้ยประกันที่ถูกลงมาชั้น 2+ จะคุ้มครองรถยนต์ผู้เอาประกันหากเกิดการเฉี่ยวชนในกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น
-
ประกันรถยนต์ชั้น 2 ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ความรับผิดต่อความสูญหาย และไฟไหม้ของตัวรถยนต์ คันเอาประกันภัย
-
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้น จะไม่คุ้มครองในกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ส่วนในกรณีเฉี่ยวชน จะคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น จะไม่คุ้มครองการเฉี่ยวชนในกรณีอื่นๆเช่น รถยนต์เฉี่ยวชนเสาไฟ้ฟ้า ฟุตบาท วัตถุอื่นๆ เป็นต้น และยังคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคู่กรณีอีกด้วย
-
ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้น เหมาะกับคนใช้รถน้อย และต้องการเบี้ยประกันรถยนต์ที่เน้นราคาถูก ส่วนในเรื่องของความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นจะไม่คุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินของผู้เอาประกันเลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีของเหตุไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุเฉี่ยวชน แต่จะรับผิดชอบทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และตัวบุคคลภายนอกเท่านั้น
.
ในฐานะผู้ซื้อ หรือผู้เอาประกัน ควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง ท่านสามารถติดต่อบริษัทประกันภัย หรือฝากข้อมูลสำหรับการติดต่อกลับท่านเพื่อให้นายหน้าประกันภัยโดย บริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ติดต่อท่านเพื่อนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ