
ยุคนี้ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ต้องกังวลกับการแลกเงินสดให้หนัก หลายประเทศเริ่มเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless) แบบเต็มตัว เราสามารถใช้ บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ Travel Card ในการใช้จ่ายค่าบริการหรือซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้แทบทั้งหมด แต่ว่าใช้บัตรไหนแล้วจะคุ้มค่ากว่ากันล่ะ? วันนี้ โลตัส มันนี่ พลัส มีคำตอบมาให้! บัตรแต่ละใบมีข้อดีหรือเงื่อนไขอะไร ที่แตกต่างกันบ้าง รับรองว่าแฮปปี้ทุกการใช้จ่าย

บัตรเครดิต (Credit Card)
คือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงินต่าง ๆ ออกให้ เพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด และต้องชำระคืนภายในเวลาที่กำหนด
ข้อดี :
-
คุณสามารถใช้จ่ายอะไรก็ได้ กับร้านค้าหรือบริการใด ๆ ก็ได้ที่รองรับ ตามวงเงินในบัตรของคุณ โดยไม่ต้องจ่ายเงินทันที รอใบแจ้งหนี้มาแล้วค่อยจ่าย จึงช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้เป็นอย่างดี และถ้าเราจ่ายได้ตรงเวลา ครบตามจำนวนเงินที่ได้รูดไป ก็ไม่เสียค่าดอกเบี้ยอีกด้วย
-
มีคะแนนสะสมแต้มผ่านการใช้งาน หรือเครดิตเงินคืนเมื่อใช้จ่าย เช่น บัตรเครดิตโลตัส มอบเครดิตเงินคืนจากยอดใช้จ่ายที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะกิน เที่ยว ช้อป ก็รับเครดิตเงินคืน 0.5%* และยอดใช้จ่าย
-
บัตรเครดิต มักมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น บัตรเครดิตโลตัส มีโปรโมชั่นใช้จ่ายกับ 6 แอป AGODA, EXPEDIA, KLOOK, KKDAY, TRAVELOKA และ Trip.com หรือรูดช้อปปิ้งที่ต่างประเทศ ด้วยสกุลเงินต่างประเทศ มีสิทธิรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 5,500 บาท* รวมถึงยังมีสิทธิพิเศษ และโปรโมชั่นสำหรับการเที่ยวต่างประเทศอีกมากมาย
-
บัตรบางใบมีสิทธิพิเศษเพื่อเจ้าของหลายอย่าง เช่น ฟรีประกันการเดินทาง การใช้บริการเลาจ์ของสนามบินฟรี เป็นต้น
-
มีความปลอดภัยในการใช้จ่าย โดยเฉพาะกับสินค้าที่มีราคาแพง เพราะคุณไม่ต้องถือเงินสดเป็นจำนวนมาก
-
หากต้องการยกเลิกการทำรายการชำระค่าสินค้าหรือบริการ ก็สามารถทำได้ เพียงติดต่อสถาบันการเงินที่ออกบัตรให้ โดยปกติจะได้รับเงินคืนเข้าบัตรเครดิตค่อนข้างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งบัตรเครดิตแต่ละใบมีเงื่อนไข และระยะเวลาคืนเงินไม่เหมือนกัน ควรศึกษาข้อมูลก่อนทุกครั้ง
ข้อจำกัด :
-
ก่อนใช้จ่ายที่ร้านค้า ต้องดูให้ดี เพราะบางร้านอาจไม่รับบัตรเครดิตในมือของคุณ สังเกตจากประเภทบัตร VISA, MasterCard
-
มีการคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินตราต่างประเทศ เป็นเงินบาทในอัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 จากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และเรทการเปลี่ยนแปลงค่าเงินก็จะเป็นเรทที่มักจะสูงกว่าเรทการแลกเงินสดตามร้านแลกเงิน

บัตรเดบิต หรือ บัตรเอทีเอ็ม
คือบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร เพื่อใช้ทำรายการถอน ฝาก โอนเงินผ่านทางตู้ ATM รวมถึงชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ
ข้อดี :
ข้อจำกัด :
-
เงินจะถูกตัดออกจากบัญชีของคุณทันที ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีมากพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
-
หากมีข้อผิดพลาด แล้วต้องการจะยกเลิกการชำระเงินจะทำได้ยาก อาจจะต้องเสียเวลาเป็นเดือน ๆ กว่าจะได้ยอดเงินที่ตัดไปแล้วกลับมา
-
การทยอยกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในต่างประเทศ ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินแต่ละครั้งสูง และค่าเงินก็จะถูกแปลงตามเรทของธนาคารซึ่งมักจะสูงกว่าเรทแลกเงินสดทั่วไป
หากใช้รูดซื้อสินค้า ต้องเสียค่าความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน ร้อยละ 1 – 2.5 จากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

Travel Card
คือบัตรเดบิตที่สามารถใช้แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ รูดจ่ายค่าสินค้า/บริการ หรือกดเงินจากตู้ ATM ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ข้อดี :
-
คุณเติมเงินเข้าบัตรไปเท่าไร ก็จะใช้เที่ยวต่างประเทศได้เท่านั้น ควบคุมค่าใช้จ่ายและไม่ปะปนกับเงินฝากในบัญชีของคุณ
-
สามารถจัดการแลกเปลี่ยนเงินในบัตรเป็นสกุลเงินใด ๆ ก็ได้ที่รองรับ ได้ด้วยตัวเอง ผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบออนไลน์
-
ไม่ต้องเสียค่าความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน
-
แลกเงินเก็บไว้ล่วงหน้าได้ในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนดี และเมื่อนำไปใช้จ่ายในวันไหนๆ ก็จะคิดตาม
ข้อจำกัด :
-
มีค่าธรรมเนียมในการออกบัตร แต่ส่วนใหญ่หลายธนาคารจะออกโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมออกบัตรและค่าธรรมเนียมรายปี
-
ไม่รองรับทุกสกุลเงิน โดยปกติ Travel Card จะรองรับสกุลเงินหลักๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยูโร (EUR) เยนญี่ปุ่น (JPY) และเรทประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ

ทั้งหมดนี้คือบัตรเที่ยวต่างประเทศทั้ง 3 ประเภท ที่ โลตัส มันนี่ พลัส รวบรวมมาให้ คุณสามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้ แน่นอนว่าแต่ละบัตรก็มีข้อดีและข้อจำกัดเงื่อนไขในการใช้งานที่ต่างกัน อยู่ที่คุณแล้วว่าจะเลือกบัตรใบไหนเป็นเพื่อนคู่ใจเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตโลตัส คุ้มค่าแน่นอน! ทั้งเที่ยวในเมืองไทยหรือจะบินไปไกลถึงเมืองนอก เพราะแค่รูดจองโรงแรม บริษัททัวร์ และรถเช่าทั่วไทย รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 5,500 บาท* ใครเริ่มวางแผนเที่ยวแล้ว เข้าไปดูรายละเอียดได้เลยที่ คลิกเลย